ไขมันอุดตันในท่อแก้ไขอย่างไรดี?

ไขมันอุดตันในท่อแก้ไขอย่างไรดี? ปัญหาท่อน้ำอุดตันเกิดจากการสะสมของไขมัน คราบ และเศษอาหาร ที่เข้าไปเกาะติดอยู่ในท่อ จนเกิดการอุดตัน ทั้งส่งกลิ่นเหม็น และเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ยิ่งถ้าปล่อยไว้นาน ๆ ก็ทำให้เกิดการรั่วซึมได้ด้วย

วิธีแก้ท่อน้ำอุดตันทำได้หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับของการอุดตัน ซึ่งอาจต้องใช้เครื่องมือ วัสดุ หรือสารเคมี ที่เหมาะสม ดังนี้

  1. ใช้ไม้ดูดสุญญากาศ หรือปลอก ใช้ดูดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในท่อ โดยใช้แรงกดปลอกลงบนท่อ แล้วดึงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำจะไหลลงได้
  2. ใช้งูเหล็ก หรือไม้แขวนเสื้อ ใช้เสียบเข้าไปในท่อ แล้วหมุนเพื่อดึงสิ่งสกปรกที่อุดตันออกมา
  3. ใช้โซดาไฟ หรือผงซักฟอก ใส่ลงไปในท่อ แล้วเทน้ำร้อนตาม ทิ้งไว้สักครู่ สารเหล่านี้จะช่วยละลายไขมันและสิ่งสกปรกที่อุดตันได้
  4. ใช้น้ำร้อน ประมาณ 1 กา เทลงในท่อ เพื่อละลายไขมันที่สะสมมานานจนท่อน้ำอุดตัน แล้วทิ้งไว้สักครู่ ทำอีกครั้ง ไขมันที่อุดตันในท่อจะละลาย
  5. ใช้เบกกิ้งโซดา น้ำยาล้างจาน และน้ำร้อน ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง กับน้ำยาล้างจาน 1/4 ถ้วยตวง ใส่ลงในท่อ แล้วเทน้ำร้อนตาม ทิ้งไว้ 15 นาที น้ำยาล้างจานจะช่วยลดความเหนียวของไขมัน ให้เบกกิ้งโซดาสามารถละลายไขมันได้ง่ายขึ้น
  6. ใช้เกลือ เบกกิ้งโซดา และน้ำส้มสายชู ผสมเกลือ 1/2 ถ้วยตวง เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง และน้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง ใส่ลงในท่อ แล้วทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นเทน้ำร้อนตาม สารเหล่านี้จะช่วยย่อยไขมันและสิ่งสกปรกที่อุดตันได้
  7. ใช้น้ำยาฟอกขาว หรือน้ำยาล้างห้องน้ำ ใส่ลงในท่อ แล้วเทน้ำร้อนตาม ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง น้ำยาเหล่านี้จะช่วยฆ่าเชื้อโรค และละลายสิ่งสกปรกที่อุดตันได้
  8. ใช้น้ำหมักชีวภาพ หรือจุลินทรีย์น้ำย่อยไขมัน เทลงในท่อ แล้วทิ้งไว้ 1 คืน จุลินทรีย์จะไปช่วยย่อยไขมันที่เข้าไปเกาะติดอยู่ในท่อ ไม่ให้พอกตัวหนาขึ้นจนตัน และกำจัดกลิ่นเหม็นได้
  9. ใช้เครื่องดูดฝุ่น ใช้หัวดูดที่มีรูเล็กๆ ดูดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในท่อ โดยใช้ผ้าหรือเทปกาว ปิดรูท่ออื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อเพิ่มแรงดูด
  10. แกะท่อออกมาทำความสะอาด ถ้าวิธีอื่นๆ ไม่ได้ผล อาจต้องใช้วิธีนี้ โดยใช้เครื่องมือ เช่น ปากแหนม ประแจ และไขควง แกะท่อออกมา แล้วทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในท่อ แล้วติดตั้งท่อกลับเข้าไปใหม่

น้ำยาล้างท่อตัน

เราสามารถแก้ไขในเบื้องต้นได้ด้วยตนเองก่อน DIY แต่ถ้ายังแก้ไม่หายควรติดต่อผู้เชียวชาญมาช่วยตรวจสอบอีกครั้งนึง หวังว่าคำตอบนี้จะช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อย